All Categories
×

Get in touch

อะไรคือเหตุผลที่เครื่องกรองน้ำด้วยระบบออสโมซิสกลับด้านเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับบ้านเรือน

2025-08-02 14:26:07
อะไรคือเหตุผลที่เครื่องกรองน้ำด้วยระบบออสโมซิสกลับด้านเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับบ้านเรือน

น้ำดื่มที่สะอาดและปลอดภัยเป็นหนึ่งในความต้องการพื้นฐานที่สำคัญของทุกครัวเรือน เมื่อมลพิษเพิ่มมากขึ้นและสารมลพิษเข้าสู่แหล่งน้ำดิบ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องพิจารณาระบบกรองน้ำที่มีประสิทธิภาพ ตัวกรองน้ำแบบออสโมซิสแบบย้อนกลับ (RO) คือหนึ่งในเทคโนโลยีการทำให้น้ำบริสุทธิ์ที่ดีที่สุดที่เจ้าของบ้านทั่วไปสามารถเลือกใช้ได้จากเทคโนโลยีการทำให้น้ำบริสุทธิ์ที่มีอยู่ในท้องตลาดในปัจจุบัน ลองมาดูให้เห็นชัดเจนขึ้นว่าอะไรทำให้ระบบ RO มีความเหนือกว่า โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับตัวกรองแบบ UV และข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับวิธีการดูแลรักษาอุปกรณ์เหล่านี้ให้อยู่ในสภาพที่ดีและใช้งานได้ยาวนาน

ระบบ RO กำจัดสารปนเปื้อนได้มีประสิทธิภาพมากกว่าตัวกรอง UV อย่างไร

การกรองน้ำแบบออยส์โมซิส (Reverse Osmosis) เป็นกระบวนการการทำให้น้ำบริสุทธิ์ โดยใช้เยื่อกรองที่มีความพรุนแบบกึ่งซึมผ่านได้ เพื่อแยกไอออน โมเลกุลที่ไม่ต้องการ และอนุภาคขนาดใหญ่ออกจากน้ำดื่ม ประโยชน์หลักของระบบ RO คือ การกำจัดสารปนเปื้อนหลากหลายชนิด ได้แก่ โลหะหนัก ฟลูออไรด์ คลอรีน ไนเตรต และเกลือแร่ที่ละลายอยู่ในน้ำ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้น้ำมีความปลอดภัย แต่ยังช่วยปรับปรุงรสชาติและคุณภาพของน้ำให้ดีขึ้น

ในทางกลับกัน ตัวกรอง UV (Ultraviolet) ถูกใช้เพื่อทำลายหรือทำให้จุลินทรีย์ในน้ำเป็นกลางด้วยแสงอัลตราไวโอเลต แม้ว่าตัวกรอง UV จะมีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อโรคบางชนิด แต่ก็ไม่สามารถกรองสารมลพิษทางเคมีและสารที่ละลายอยู่ในน้ำได้ กระบวนการนี้โดยพื้นฐานถือเป็นกระบวนการทำให้เชื้อโรคหมดไป และขึ้นอยู่กับการเตรียมน้ำเบื้องต้นที่จะช่วยลดความขุ่นและความเข้มข้นของอนุภาคในน้ำ เพื่อให้แสง UV สามารถทะลุผ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ จุดอ่อนนี้ทำให้เห็นว่าแม้ตัวกรอง UV จะมีประสิทธิภาพสูงในการผลิตน้ำที่สะอาดจากเชื้อโรค แต่กลับไม่สามารถเพิ่มคุณภาพโดยรวมของความบริสุทธิ์และรสชาติของน้ำได้เทียบเท่ากับระบบ RO

การกรองที่ให้โดยระบบ RO มีความละเอียดมากกว่า และสามารถจับสิ่งเจือปนที่เล็กที่สุดที่มีขนาด 0.0001 ไมครอน ซึ่งทำให้มีประสิทธิภาพสูงเมื่อใช้งานกับสิ่งเจือปนที่หลากหลาย และเป็นวิธีแก้ปัญหาแบบครบวงจรสำหรับปัญหาการปนเปื้อนต่าง ๆ ในกรณีที่น้ำในพื้นที่มีคุณภาพแย่เกินปกติ หรือมีมลพิษที่สงสัยว่าปนอยู่ในน้ำในรูปแบบที่ละลายแล้ว ระบบ RO จะช่วยรับประกันความปลอดภัยของน้ำที่จัดหามาโดยการกำจัดสิ่งปนเปื้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2-2.jpg

เคล็ดลับในการบำรุงรักษาเครื่องกรองน้ำแบบ RO ให้ใช้งานได้ยาวนาน

เพื่อให้เครื่องกรองน้ำแบบ RO ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและให้น้ำสะอาดที่สามารถดื่มได้ ควรทำการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ สิ่งต่อไปนี้คือประเด็นสำคัญที่ควรคำนึงถึงเพื่อรักษาเครื่องกรองน้ำแบบ RO ของคุณให้อยู่ในสภาพที่ดี:

1. เปลี่ยนไส้กรองอย่างสม่ำเสมอ

เมื่อใช้งานระบบ RO จะต้องเปลี่ยนไส้กรองทุก 6 ถึง 12 เดือน ขึ้นอยู่กับการใช้งานและคุณภาพของน้ำ ไส้กรองจะช่วยกรองสิ่งปนเปื้อนที่มีขนาดใหญ่ และกำจัดคลอรีนที่อาจทำให้เยื่อกรอง RO เสื่อมสภาพ โดยใช้ไส้กรองขั้นต้นซึ่งประกอบด้วยไส้กรองตะกอนและไส้กรองคาร์บอน เพื่อขจัดอนุภาคขนาดใหญ่เหล่านี้ก่อนที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อเยื่อกรอง RO การเปลี่ยนไส้กรองอย่างสม่ำเสมอจะช่วยยืดอายุการใช้งานของเยื่อกรอง RO ได้อย่างมีนัยสำคัญ

2.เปลี่ยนเยื่อกรอง

ศูนย์กลางหลักของระบบการกรองน้ำเรียกว่าเยื่อกรอง RO ควรเปลี่ยนทุก 2 ถึง 3 ปี ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามคุณภาพน้ำในพื้นที่และนิสัยการใช้งานระบบ การบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันการสะสมของสิ่งปนเปื้อน และทำให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

3.ล้างระบบ

การฆ่าเชื้อและทำความสะอาดถังเก็บน้ำและส่วนประกอบอื่น ๆ ของระบบ RO อย่างน้อยปีละครั้งมีความสำคัญมาก สิ่งนี้ช่วยกำจัดการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ภายในระบบและรักษาความสะอาดของระบบ

4.ตรวจสอบการรั่วซึมและหยดของน้ำ

ควรตรวจสอบระบบ RO ของคุณเป็นระยะเพื่อดูว่ามีการรั่วซึมหรือไม่ การซ่อมแซมจุดรั่วซึมอย่างทันเวลาจะช่วยให้แรงดันภายในระบบคงที่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5.ตรวจสอบระดับแรงดัน

จำเป็นต้องวัดการไหลของน้ำ - แรงดันของน้ำที่ไหลเข้ามามีผลต่อประสิทธิภาพของระบบ RO โดยทั่วไประบบ RO ส่วนใหญ่ต้องการแรงดันน้ำที่ปรับไว้ระหว่าง 40 ถึง 85 psi ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสม หากแรงดันน้ำต่ำเกินไปจนไม่สามารถทำให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องติดตั้งปั๊มเสริมเพื่อเพิ่มแรงดันน้ำ

6.บริการโดยผู้เชี่ยวชาญ

คุณอาจพิจารณานำระบบ RO ไปให้บริการโดยผู้เชี่ยวชาญปีละครั้ง การตรวจเช็กโดยรวมอย่างสม่ำเสมอจะช่วยรักษาส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์ รวมถึงวาล์วและซีลให้อยู่ในสภาพการใช้งานที่ดี

สรุปได้ว่ามีตัวเลือกมากมายเมื่อพูดถึงการกรองน้ำ แต่ระบบออสโมซิสแบบย้อนกลับ (Reverse Osmosis) มีความโดดเด่นกว่าเพราะมีประสิทธิภาพมากกว่าวิธีอื่น ๆ ในการกำจัดสารปนเปื้อน ความรู้เกี่ยวกับการทำงานของระบบ RO และทักษะในการดูแลรักษา จะช่วยให้เจ้าของบ้านมีน้ำสะอาดและมีสุขภาพดีโดยไม่ถูกรบกวนอย่างต่อเนื่อง ผู้กรองน้ำแบบ RO ไม่ใช่เพียงการลงทุนด้านคุณภาพน้ำเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของสมาชิกในครัวเรือนอีกด้วย